วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทีวีดิจิตอล (Digital television)

             ทีวีดิจิตอลหรือโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (Digital television) เป็นระบบการส่งผ่านสัญญาณภาพวีดีโอและเสียงโดยระบบดิจิตอล ซึ่งแต่เดิมระบบการรับสัญญาณโทรทัศน์ในบ้านเราใช้เป็นระบบ อะนาล็อก โดยระบบดิจิตอลมีจุดเด่นกว่าระบบอนาล็อกทั้งในด้านความคมชัดของภาพและเสียง และการส่งข้อมูลแบบดิจิตอลสามารถส่งข้อมูลได้มากกว่าแบบเดิม (Multicasting) ซึ่งตอนนี้หลายๆ ประเทศได้ทําการพัฒนาระบบการรับส่งสัญญาณดิจิตอลไปอีกระดับแล้วครับ เช่น โทรทัศน์จอกว้าง ( WIDE SCREEN ) โทรทัศน์ความคมชัดสูง ( HDTV ) ในขณะที่ระบบอะนาล็อกไม่สามารถพัฒนาประสิทธิภาพได้ ซึ่ง ระบบสัญญาณดิจิตอลเกิดขึ้นมาจากการนําระบบคอมพิวเตอร์นํามาพัฒนาใช้ในการช่วย โทรทัศน์ แล้วจึงได้มีการปรับปรุงโทรทัศน์ให้ใช้ระบบดิจิตอล 

           หากที่บ้านใช้โทรทัศน์ระบบอนาล็อก

           โทรทัศน์ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นจอตู้หรือจอแบน สามารถใช้เสาหนวดกุ้งหรือก้างปลาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโทรทัศน์ใหม่ให้เปลืองเงิน เพราะเพียงแค่ซื้อกล่องแปลงสัญญาณ หรือ Set Top Box ที่เป็นระบบ DVB-T2 มาเชื่อมต่อกับเครื่องโทรทัศน์เดิมผ่านช่อง AV สีแดงขาวเหลือง ก็จะช่วยเปลี่ยนสัญญาณจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิตอลได้แล้ว โดยมีหนวดกุ้งหรือเสาก้างปลาเป็นตัวรับสัญญาณ

           ทีวีดิจิตอลของไทยจะมีทั้งหมดกี่ช่อง ?

           สำหรับระบบโทรทัศน์รูปแบบใหม่ของประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2557 นี้ จะใช้ระบบ DVB-T2 ซึ่งเป็นระบบ Mpeg4 เป็นมาตรฐาน โดยทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้กำหนดให้เพิ่มช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินของประเทศไทยเพิ่มเป็น 48 ช่อง แบ่งเป็นช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศผ่านระบบเดิม (อนาล็อก) จำนวน 6 ช่อง ส่วนอีก 42 ช่อง จะเป็นช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศในระบบดิจิตอล ทั้งนี้ จำนวน 48 ช่องนี้ ยังแบ่งออกได้อีกตามรูปแบบของช่อง คือ
           สำหรับระบบโทรทัศน์รูปแบบใหม่ของประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2557 นี้ จะใช้ระบบ DVB-T2 ซึ่งเป็นระบบ Mpeg4 เป็นมาตรฐาน โดยทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้กำหนดให้เพิ่มช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินของประเทศไทยเพิ่มเป็น 48 ช่อง แบ่งเป็นช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศผ่านระบบเดิม (อนาล็อก) จำนวน 6 ช่อง ส่วนอีก 42 ช่อง จะเป็นช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศในระบบดิจิตอล ทั้งนี้ จำนวน 48 ช่องนี้ ยังแบ่งออกได้อีกตามรูปแบบของช่อง คือ

          ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดสาธารณะ 12 ช่อง

          ออกอากาศทางช่อง 1-12 เช่น ช่อง 5, NBT, TPBS ฯลฯ  
           ช่องธุรกิจ 24 ช่อง ประกอบด้วย
           ช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว 3 ช่อง คือ
                ช่อง 13 - BEC (ช่อง 3)
                ช่อง 14 - MCOT
                 ช่อง 15 - TV Pool
          ช่องข่าวสารและสาระ 7 ช่อง คือ
                ช่อง 16 - TNN
                ช่อง 17 - TVPool
                ช่อง 18 - Dailynews
                ช่อง 19 - Spring News
                ช่อง 20 - สามเอ (Bright TV)
                ช่อง 21 - Voice TV
                ช่อง 22 - Nation
         ช่องวาไรตี้ ความคมชัดระดับปกติ (SD) 7 ช่อง คือ
                ช่อง 23 - Workpoint
                ช่อง 24 - True
                ช่อง 25 - GMM
         ช่อง 26 - กรุงเทพธุรกิจทีวี (เครือ Nation)
                ช่อง 27 - RS
                ช่อง 28 - BEC
                ช่อง 29 - MONO
           ช่องวาไรตี้ ความคมชัดสูง (HD) 7 ช่อง คือ
                ช่อง 30 - MCOT
                ช่อง 31 - GMM
                ช่อง 32 - ไทยรัฐ
                ช่อง 33 - BEC (ช่อง 3)
                ช่อง 34 - AMRIN
                ช่อง 35 - ช่อง 7
                ช่อง 36 - PPTV
           ช่องบริการชุมชน 12 ช่อง
                      คือ  ช่องทีวีเคเบิ้ลท้องถิ่น หรือช่องรายการทีวีดาวเทียมท้องถิ่น ซึ่งแต่ละจังหวัดจะรับชมได้ในรายการที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้น ๆ
            ข้อดี
1. โทรทัศน์ในระบบดิจิตอลมีความชมชัดของภาพที่ดีกว่าเดิมมาก และหากต้องการคุณภาพสูงยิ่งขึ้นไปอีกก็สามารถพัฒนาเป็นระดับความคมชัดสูง (High Definition หรือ HD) และความคมชัดสูงพิเศษ (Ultra High Definition หรือ UHD) 
2. ไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนกัน หรือสัญญาณสะท้อนจากอาคารหรือสิ่งกายภาพธรรมชาติขนาดใหญ่ ดังนั้นภาพจะใส คม ไม่มีภาพล้ม ภาพซ้อน หรือภาพเงา (Ghost Immage)
3. สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์สื่อสารอีเล็กโทรนิกซ์สมัยใหม่ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาในอนาคต เช่น อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นบลูเรย์ และบริการเสริมใหม่ๆ
4. มีประสิทธิภาพในการใช้คลื่นดีกว่า แถบความถี่คลื่นขนาดเดียวกันที่ใช้ส่งโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกเดิม เมื่อเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอลแล้ว สามารถใช้ส่งสัญญาณโทรทัศน์ได้มากกว่า 6 ช่องขึ้นไป (จากการคำนวนและทดลองของกสทช. สามารถทำได้ถึง 14 ช่องทีวีดิจิตอลต่อหนึ่งมัลติเพล็กซ์)
5. ไม่ต้องเสียแถบคลื่นความถี่เพื่อใช้ป้องกันการรบกวนกันเองของช่องทีวี (Guard Band)เช่นในระบบอนาล็กเดิมต้องเว้นช่อง 2 4 6 8 10 ไว้โดยไม่ได้ใช้
6. การส่งสัญญาณออกอากาศในระบบดิจิตอลกินไฟน้อยกว่า ดังนั้นดิจิตอลทีวีจะช่วยลดต้นทุนการประกอบกิจการโทรทัศน์ในเรื่องค่าไฟฟ้าและจะช่วยถนอมสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่า
           ข้อเสีย
1. หากอยู่ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือแม่เหล็ก จะส่งผลให้ภาพไม่คมชัด โดยเฉพาะช่องต่ํา
2. หากมีสัญญาณอื่นที่ส่งมาจากสถานีวิทยุหรือโทรทัศน์มารบกวน จะทําให้การรับสัญญาณไม่คมชัด
3. หาก โทรทัศน์ที่รับสัญญาณอยู่ในพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างอย่างตึก หรือภูเขาบังการรับสัญญาณโทรทัศน์ทําให้ให้เครื่องรับไม่สามารถรับสัญญาณได้ดี
4. แบบอะนาล็อกไม่สามารถบีบอัดสัญญาณได้ ทําให้ต้องใช้ความถี่มากในการส่ง ทําให้มีสถานีน้อย
5. การส่งสัญญาณอื่นๆ ไปร่วมกันสัญญาณแบบอะนาล็อกทําได้โดยยาก เพราะจะมีผลต่อการรบกวนคลื่นสัญญาณ
6. ช่องสัญญาณน้อย ไม่พอการใช้งานที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น